ผลสัมฤทธิ์จากการอบรม “ปฏิบัติ เขียนภาวนา” รอบกลางปี 2565

 

ขออนุโมทนากับกุศลจากการภาวนาและการเปลี่ยนแปลงตนเอง
จากการอบรม “ปฏิบัติ เขียนภาวนา” รอบกลางปี 2565 ในเดือนมิถุนายน – เดือนกรกฎาคม (เสาร์อาทิตย์ รวม 5 สัปดาห์ทาง Zoom)

มีผู้ผ่านการอบรมทั้งสิ้น 14 ท่าน ตามรายนามดังนี้

  1. กัญญา ปลื้ม
  2. วาสนา เจี๊ยบ
  3. กัณทิมา อ้อย
  4. สุภัทรา ฝน
  5. ศิริพร เอ๋
  6. รัตติพร มด
  7. ภาคภูมิ เบส
  8. ปิยมาภรณ์ จุ๊บ
  9. กนกนุช นุช
  10. รวิวรรณ แนน
  11. เนติกา ป้อม
  12. กนกวรรณ หมี
  13. จิตชนก ขลุ่ย
  14. กนกรัตน์ Ink

 

จากการฝึกที่ผ่านมามีอะไรบ้างที่เป็น การเปลี่ยนแปลงของตนเอง

– ทำให้รู้ว่ายึดติดอะไร ต้องปล่อยวางอะไร เป็นความตระหนักที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
– มีสติไตร่ตรองให้สงบใจก่อนตัดสินใจแก้ไขปัญหา ไม่ปล่อยตามกลไกอัตโนมัติ ช้าลง
– รู้สึกมั่นคงมากขึ้น เพราะได้ตอกย้ำความไม่ใช่ตัวตน ไม่ต้องรู้สึกเหนื่อยคอยปกป้องดูแลหรือเฝ้าระวังตัวตน เมื่อถึงเวลาก็สลายดับลงตามธรรมชาติ
– ประจักษ์ถึงภาวะหลงและการขาดสติของตัวเอง ทำให้ต้องระวังความไม่รู้สึกตัว และคอยตรวจสอบผลลัพธ์อย่างรับผิดชอบต่อผลที่เกิดขึ้น
– มีสติถี่มากขึ้น รู้ตัวไวมากขึ้น รอบคอบมากขึ้น
– รับรู้อารมณ์ของจิตใจตนเองเช่น ความน้อยใจ และความรู้สึกในจิตใต้สำนึก
– ถูกเขย่าอัตตาบ่อยครั้ง แต่ก็รู้สึกดีขึ้นทุกครั้งที่ได้เท่าทันอัตตาตน
– รู้จักกการเดินจงกรมอย่างมีสติ จากที่ไม่เคยมั่นใจว่าปฏิบัติได้ถูกต้อง
มีความตื่นตัวจากการถูกอบรม สร้างความกระตือรือร้นในการตระเตรียมในการเรียนรู้
– เห็นข้อบกพร่องในตัวเองอย่างชัดเจนในการหลงเพลิน และความอยาก
– เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางที่ถูกที่ควร ซึ่งนำไปสู่ความสุขสงบในชีวิต
– การคิดสั้นลง ตัดความฟุ้งซ่านและความหลงกับการคิด ด้วยการกลับมาอยู่กับลมหายใจ
– ความทุกข์จากการหมกมุ่นกับความคิดหายไป
– อยู่กับลมหายใจในชีวิตประจำวันบ่อยขึ้น และคอยสังเกตกาย เวทนา จิต และธรรม
– จากคนที่ไม่ค่อยละเอียดลออ กลายเป็นคนที่สังเกตมากขึ้น เห็นธรรมชาติสวยงาม ละเอียดต่อสิ่งรอบตัว
– เลือกนิ่งเงียบได้เมื่อสิ่งต่างๆ รุมเร้าอย่างไม่ทุรนทุราย
– เห็นการปรุงแต่งให้เกิดใจจากการความยึดในตัวตน
– มีความปราณี และแสดงออกความปราณีได้
– คาดคั้นในการแสดงออกน้อยลงมาก ทำให้ปัญหาน้อยลง
– ระลึกถึงพระคุณแม่บ่อย และระลึกถึงบุคคลต่างๆ ด้วยความอ่อนโยน
– จดจ่อกับชีวิตประจำวัน ปรับเรื่องกิน อยู่ คือ , กิน กาม เกียรติ กลับสู่ความเป็นธรรมดา
– จัดตารางเวลาให้ชีวิตมีระเบียบวินัยมากขึ้น
– มองโลกตามเป็นจริงมากขึ้น ลดการปรุงแต่งทางความคิด
– จำความฝันได้
– หายใจเข้าออกยาวขึ้น
– มีสติในการเขียนมากขึ้น มองเห็นการขาดสติของตนเองจากเมื่อก่อน
– ปล่อยวางได้ดีขึ้น มองสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริงมากขึ้น
– ใจเย็นลง มองอุปสรรคเป็นการฝึกฝน ไม่อารมณ์เสีย
– เศร้าน้อยลงมากๆ และความกลัวสูญเสีย กลัวเปลี่ยนแปลง กลัวถูกรังเกียจ ลดลงไป
– ให้อภัยตัวเองได้แล้วจากสิ่งที่ทำผิดพลาด เริ่มรู้สึกรักตัวเองจากใจจริงได้เป็นครั้งแรก
– พึงพอใจกับความโดดเดี่ยว โดยปราศจากความเหงา
– กลับมาทบทวนตัวเองทุกวัน เขียนภาวนาก่อนนอนได้ต่อเนื่อง
– มองเห็นความตาย การเปลี่ยนแปลง ความไม่เที่ยง จากสิ่งต่างๆ รอบตัวได้อย่างละเอียด
– มองสิ่งต่างๆ รอบตัวอย่างไม่ตัดสินตีความ
– มีสติในการทำงาน และทำให้ทบทวนว่าตอนนี้ กำลังโดนอะไรครอบงำอยู่ เราจึงเป็นทุกข์
– มีวินัยและการจัดระบบระเบียบในชีวิตมากขึ้น
– ดูลมหายใจได้อย่างละเอียด ละเอียดต่อสิ่งรอบตัว
– ช้าลง คิดก่อน หายใจก่อน ฝึกทำอะไรช้าลง
– ห้ามใจไม่ให้พูดแทรกได้
– มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่เขียน มีคนที่ทำงานบอกว่าลายมืออ่านง่ายมากขึ้น
– ก่อนแสดงความคิดเห็นออกไป อยู่กับลมหายใจก่อน ทำให้ลดความขัดแย้งลงไป และเข้าใจคนอื่นง่ายขึ้น
– สุขุมในการสื่อสาร ไม่พูดโพล่ง ยืนยันความต้องการผ่านการสื่อสารอย่างละมุนละม่อม
– ไม่ด่วนสรุปจากสิ่งที่เห็นตามความเชื่อความรู้ของตน
– แยกแยะได้ระหว่างสิ่งที่ทำ ทำด้วยความยึดหรืออยากไหม พอรู้ตัวก็คลายลงได้ดีขึ้น
– ลดความยินดียินร้ายในเวทนามากขึ้น
– เห็นโทษของความเพลิดเพลิน และการไม่ประมาณในกามคุณและกิเลสต่างๆ
– สนุกกับการขัดใจ ปักใจ และจูงใจตน ในชีวิตประจำวัน
– เกิดเจตนาปฏิบัติบูชา สืบทอดศาสนา
– ช่วยแก้ปัญหาเรื่องลมหายใจสั้น และการนอนหลับยาก
– ไวกับสิ่งที่มากระทบ และถามตัวเองทันว่า ทำเพื่ออะไร สะสมเยอะทำไม ? ไม่เหนื่อยบ้างหรือ ยังไม่พออีกหรือ ?
– ไม่โมโหตัวเองเวลาไม่ได้ทำตามเป้าหมาย

 

สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดการฝึกที่ผ่านมา สอนอะไรบ้าง

– ทั้งดีและร้ายต่างมีภัยแฝง ไม่ควรยึดติดและโลภกับสิ่งเหล่านี้
– หนทางในการพ้นทุกข์ คือการละอัตตาให้มากที่สุด
– ลมหายใจอยู่กับเรามาตั้งแต่เกิด แต่เราไม่เคยรับรู้
– เราปล่อยชีวิตขึ้นลงตามผัสสะที่ถาโถมเข้ามารอบตัว โดยไม่มีหลักยึด
– ลมหายใจนี่แหละ จะเป็นหลุมหลบภัย เป็นที่ยึดเหนี่ยวเวลาต่อสู้กับ “ยลยิล ยวนยั่ว”
– เมื่อเรากลับมาอยู่กับลมหายใจ เราจะออกจากวงจร อยาก-ยึด-ยุ่ง-ยาก-ย้วย ในชีวิตได้
– ทุกครั้งที่คิด ความทุกข์ได้เกิดขึ้น
– การภาวนามีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความตั้งใจทำ
– การเขียนภาวนาเป็นอีกรูปแบบที่ช่วยให้มีสติมากขึ้น เพราะถ้าขาดสมาธิก็จะเกิดการเขียนผิด และการหลงไปในความคิด
– การเขียนเมื่อหายใจออก ช่วยฝึกในการเอาออกให้มากขึ้น ลดละความอยากและความยึดติดในตัวเราและของๆ เรา เอากิเลสและคาร์บอกไดออกไซด์ซึ่งเป็นโทษออกจากทั้งกายใจ
– การถูกสะท้อนจากครูอาจารย์ทำให้เห็นตนเอง ทั้งทางโลกและทางธรรมมากขึ้น
– ชีวิตเปี่ยมไปด้วยบททดสอบที่ยาก ต้องตั้งสติ ไม่ประมาท ต้องปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นทีละน้อย และลดละเลิกอุปนิสัยที่ติดตัวมานาน
– ความรู้สึกทั้งหลาย สังขารทั้งหลาย สิ่งที่ดีมีคุณค่าทั้งหลาย ล้วน “อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา”
– การทำงานและการใช้ชีวิตที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความอยาก การใช้ชีวิตด้วยกิเลสนำหน้าทำให้เป็นทุกข์ ที่บางครั้งไม่สามารถตอบสนองความอยากได้ อยากเป็น อยากมี ได้ทั้งหมด
– การตัดวงจรความอยาก ความยึดออกบ้าง ทำให้เราเป็นสุขมากขึ้น
– เราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นได้เสมอ
– ครูและเพื่อนที่ดีเป็นผู้ให้คำแนะนำเรา สะท้อนเรา จงเปิดใจรับฟังและยอมรับมาพัฒนาตน
– การติดสุข การไขว่คว้าหาความสุข ทำให้เป็นทุกข์ ทำให้ติดในมายาคติว่าสิ่งที่ตนเองเป็นและยึดมันดี ดูดี
– การรู้ตน นำมาสู่การฝึกละลดตัวตน
– ต้องฝึกสติในระหว่างวันมากขึ้น ไม่ใช่เพียงในรูปแบบเท่านั้น
– ควรหมั่นโยนิโสมนสิการเป็นประจำวัน แ ละระวังวิปัสสนูปกิเลส ไม่ให้เกิดเป็นตัวตน
– ควรเพิ่มวินัย มีฐานของสติ ฝึกใช้คำบริกรรม และสังเกตอาสวะต่างๆ เพื่อปรับปรุงตน
– ยิ่งหา ยิ่งไม่เจอ ยิ่งอยากสงบ ยิ่งไม่สงบ
– เราเป็นอะไร และไม่เป็นอะไร ได้มากกว่าที่เราคิด
– เดินทางสายกลาง อยู่อย่างปากงูอย่างไร ไม่โดนเขี้ยวงู
– การออกนอกสภาพแวดล้อมเดิม และทำสิ่งใหม่ๆ ทำให้เรามีคุณค่ามากขึ้น เห็นเวลามีคุณค่ามากขึ้น
– การได้กลับมาอยู่กับตัวเอง ทำให้ไม่ต้องกดดันใครๆ แม้แต่กับตัวเอง
– ถ้าเรายึดติด สิ่งใด เราย่อมเป็นทุกข์
– ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อยู่กับปัจจุบัน เพราะไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้แน่นอน

 

หลักสูตร “ปฏิบัติ เขียนภาวนา”
https://www.dhammaliterary.org/meditation-writing/

รวมคำบอกเล่าสิ่งที่ได้รับจากการเขียนภาวนา
https://drive.google.com/file/d/1EAa22K8fTIRsYu5Zm7-Cl8IUAVh5os7s/view?usp=sharing