บทเรียนและความประทับใจ เขียนภาวนา 2560 (3)

 

 

” เป็นประสบการณ์ใหม่ ที่พบว่า การเขียนง่ายๆ ที่เราใช้ทุกวัน สามารถพาเรารู้จักตัวเองได้ เทคนิคที่ง่าย แต่ทรงพลัง ในการรู้จักความคิด ตัวตน อันจะนำไปสู่การแก้ไข ที่ถูกจุดที่สุด
.
” การออกจากสิ่งที่คิดว่าปลอดภัย ด้วยวิธีการง่ายๆ แค่กระดาษกับปากกา การยอมสละเวลา การยอมทำสิ่งที่แตกต่าง จนพบว่า เราเองที่ถือกุญแจดอกสำคัญ ในอันที่จะเข้าใจตัวตนอย่างลึกซึ้ง ด้วยตัวเราเอง เราอาจจะหาทางแก้ปัญหาชีวิตมามาก แต่ล้วนไม่ถูกจุด เพราะคนที่ จะแก้ปัญหาให้เราได้นั้น คือ ตัวเราเองเพียงผู้เดียว
.
” การอบรมทำให้ยอมรับตนเอง ทั้งด้านดี และไม่ดี เหนืออื่นใด การยอมรับว่าความคิดเราเอง ก่อปัญหาชีวิตเราเอง หาใช่ภายนอก และความคิด ก็ใช่ว่า ต้องควบคุม แค่รู้ ตามความเป็นจริง ยอมรับมัน นั่นคือ อิสระ แท้จริง อิสระทางความคิด นำไปสู่ทางแก้ปัญหา ที่ต่างจากเดิม
คุณ ”
.
คุณอรหทัย (อร) อาชีพ จักษุแพทย์
.
.
” ประทับใจมาก ๆ เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าการฝึกจิตทางด้านการเขียนจะเป็นไปได้ ไม่เคยนึกภาพออกว่าการเขียนเปลี่ยนชีวิตเป็นยังงัย แต่คอร์สนี้มหัศจรรย์มากมันทำให้เราได้เรียนรู้และเข้าถึงจิตภายในของตัวเราได้ด้วยการเขียนและภาวนาผ่านลมหายใจเข้าออก ทำให้รู้สึกว่าตัวเองค่อยๆเบาลง จากวันแรกที่อึดอัด หน่วง ถึง ผ่านไปแต่ละบทจะรู้ถึงความไม่หนัก ไม่อึดอัด แม้จะทำอย่างอื่นในชีวิตประจำวันเมื่อเผลอไปคิด นึกขึ้นมาได้ก็จะกลับมาอยู่กับลมหายใจ และทำให้เรามีความสำรวมทางกาย วาจา และใจมากขึ้น ไม่ไปวิจารณ์ หรือจ้องจับผิดใคร เพราะเอาเวลามาดูตัวเองมากขึ้น // ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของครูโอเล่ในแต่ละบทมันทำให้เราได้ข้อคิดมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้นค่ะ
.
” รู้สึกว่าตัวเองนิ่งมากขึ้น ไม่ตัดสินใครจากความคิดของเรา มองเค้าในสิ่งที่เราเห็นอยู่ตรงหน้า ยอมรับในสิ่งที่เค้าเป็น รู้สึกจิตใจเบาสบายมากขึ้น เข้าใจว่าแต่ละคนจะมีสองด้านเสมอขึ้นอยู่กับเราเลือกว่าเราจะหยิบด้านไหนขึ้นมาเพื่อทำให้เรามีความสุข รู้สึกรักตัวเองมากขึ้นเยอะมาก ดูแลจิตใจตัวเองมากขึ้น ตัวเบาสบาย โล่ง มีความสุขกับทุกวัน ได้มากขึ้นเรื่อยๆ
.
” ข้อคิดที่ได้จากการเรียนครั้งนี้ ทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น รักตัวเองมากขึ้น ไม่เอาใจเราไปผูกไว้กับใคร รู้แล้วว่าคนที่รักเราจริงๆ ก็คือตัวเราเอง เราจะทุกข์น้อยลงถ้าเราวางตัวตนของเราลง ไม่คาดหวัง ได้หันมามองทุกอย่างอย่างเป็นจริงมากขึ้น มองจากตาที่เห็น ไม่ได้มองด้วยความคิดและเหตุผลมาประกอบ โฟกัสที่ปัจจุบันมากขึ้น ”
.
คุณกิรณา (ยุ้ย) อาชีพ employee (Travel Agency)
.
.
” ได้กลับมาฝึกสติและสำรวจตัวเอง รู้จักตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม และในมุมที่ลึกกว่าเดิม บางเรื่องก็ชัดเจน บางเรื่องยังคลุมเครืออยู่ ชอบการเขียนตามลมหายใจออก
.
” เมื่อเริ่มแรกของการเขียนที่ละลมหายใจออกรู้สึกติดขัด แต่หลังจากนั้นเปลี่ยนจังหวะการเขียนใหม่ เขียนตามลมหายใจออกโดยไม่จำเป็นต้องจบคำ เขียนตามจังหวะการหายใจ พอเริ่มปรับได้รู้สึกการเขียนคำต่อลมหายใจมันเป็นการจบในคำนั้นๆ พอเริ่มเขียนคำใหม่เท่ากับเราได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ซึ่งในการเขียนแบบคำต่อลมหายใจทำให้เราไม่ต้องมองไปไกลเพียงแต่อยู่กับคำนั้นกับลมหายใจออกเท่านั้น มีสั้นๆแค่นี้ ทำให้เรารู้สึกอิสระ ซึ่งการเกิดขึ้นอย่างนี้จะเกิดเป็นบทการเขียนแรกที่เราใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เฝ้ารับรู้ตามความเป็นจริงเท่านั้น ชอบการเกิดความรู้สึกอย่างนั้นขึ้น เพราะเราเป็นอิสระจากความคิด ได้เริ่มมองย้อนตัวเอง ตามหัวข้อโจทย์ที่ให้ มีบางสภาวะที่รู้สึกไหลลื่น แต่บางสภาวะอึดอัด หนัก เศร้า เพราะเรามีปัญหากับผ่านหัวข้อ เช่น การพลัดพราก ที่เรายังคงมีความยึดมั่น สำคัญมั่นหมายเป็นตัวตน มีอุปทาน บางหัวข้อเรามีการอัตตา
.
” รู้จักตัวเองในมุมที่ลึกขึ้น รู้ว่าเรายึดมั่น ถือมั่น ในเรื่องใดมากขึ้น ส่วนในบางเรื่องเราสามารถแก้ไขลด ละ เลิก ยอมรับได้ ในบางครั้งก็มีความคิดผุดขึ้นมาเตือนตัวเรา ถึงการมองโลกตามความเป็นจริง ในเรื่องการกิจวัตร ดีนะ มีความจดจ่อกับการเขียน เหมือนช่วงนี้การเขียนเข้ามาอยู่ในชีวิตเรา แล้วทำให้เราได้ฝึกสมาธิยามที่เราได้ลงมือเขียนด้วย และทำให้เราเริ่มจริงจังกับการฝึกนั่งสมาธิช่วงเช้าของทุกวัน เพื่อความไม่ประมาทของชีวิต
.
” ที่เห็นได้ชัดอีกแง่หนึ่งคือ เรื่องของอารมณ์ดี เพิ่มความมีอารมณ์ขัน มองทุกอย่างง่ายขึ้น สนุกและตลก ทำให้ชีวิตมีความเป็นไปได้ตลอดเวลา ทุกอย่างไม่ใช่ปัญหา มันสามารถแก้ไขได้ ”
.
คุณวิลาวัลย์ (วิ) อาชีพ ครู
.
.
บทเรียนและความประทับใจ จากการอบรม “เขียนภาวนา” ในหลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๒๗
www.dhammaliterary.org