บันทึกนักเขียนบำบัด “ฟังเสียงร่างกาย” ตอนที่ ๑

 

บันทึกนักเขียนบำบัด1

 

 

บันทึกนักเขียนบำบัด “ฟังเสียงร่างกาย” ตอนที่ ๑

บทสนทนาและการดูแลตนเอง

ในรอยต่อระหว่างการอบรม “เขียน = ปลดปล่อยชีวิต” และ “พลังแห่งจิต กึ่งออนไลน์”

โดย สุพัตรา

 

อาจารย์…

ชีวิตที่ต้องคอยพยายามพิสูจน์ตัวเองอยู่ตลอดนี่เหนื่อยมากเลยนะครับ ยิ่งต้องคอยอยู่กับคำตัดสินและคำสั่งโดยที่ไม่ได้ตอบโต้ก็ยิ่งเหมือนคอยแบกหินไปด้วย เหนื่อยอย่างนี้ความฝัน ความตั้งใจ และการเรียนรู้ก็พลอยถูกบั่นทอน ใจแบกรับหนักอึ้งก็ยิ่งเร่งเร้าร่างกาย ก็สะท้อนมาให้เราฟังผ่านอาการที่หน้าอกและหัว จะพอช้าลงและให้โอกาสร่างกายได้พูดเสียหน่อย ได้ไหมครับ เห็นร่างกายและจิตใจเราเสียพลังไปมากพอมีช่วงเวลาให้เราลองฟังร่างกายได้ไหมครับ ผมจะแนะนำดู

_ลองนั่งหรือนอน หลับตา ผ่อนคลายความคิดความกังวลใดใด หายใจอยู่กับตนเองครู่หนึ่ง

_กำหนดความรู้สึก ไล่ไปตามลำดับ จากเท้าสองข้าง / หัวเข่า / ก้น / ท้องน้อย / ท้อง / หน้าอก / ลำคอ / หน้าผาก / กลางศรีษะ แต่ละส่วนใช้เวลาครู่หนึ่ง ไปตามเสียงภายในของเรา แต่ละส่วนนั้น ให้ถามในใจว่า เธอรู้สึกอย่างไร มีอะไรอยากจะบอกฉันหรืออยากให้ฉันเห็น

_หลังจากทำทั้งหมด เราจะดูแลตนเองต่ออย่างไรก็ได้ หรือหากมีพลังหรือเวลาก็อาจบันทึกด้วยภาพหรือถ้อยคำก็ได้

ไม่มีกำหนดส่งหรือจำนวนครั้งนะครับ ลงมือทำได้เรื่อยๆ กลับมาฟังร่างกายเรานะครับ

-อนุรักษ์-

———–

ฉัน…

ฟังร่างกายครั้งแรก 01/03/59

ก่อนเริ่มกระบวนการเปิดเพลงฟังและทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ รู้สึกร่างกาย และสมองผ่อนคลายลงมาก อาการบีบคั้นตัวเองหายไป หลังจากที่ตัดสินใจและตั้งใจจะกลับมาฟังร่างกายอย่างจริงจัง ตั้งนาฬิกาปลุกเร็วขึ้นเพราะรู้สึกว่าอยากตื่นขึ้นมาทำอะไรๆแบบไม่ต้องเร่งรีบ

เริ่มกระบวนการ นอนหลับตา ผ่อนคลายความคิดความกังวล หายใจอยู่กับตนเอง แล้วก็หลับยาวไปจนถึงเช้าเลยค่ะ:))

———–

อาจารย์…

เยี่ยมครับ ร่างกายผ่อนคลายเต็มที่ ถ้าฝันอะไรก็บันทึกหรือมาบอกเล่ากันนะครับ กลับมาฟังรอบที่สองต่อครับเมื่อได้จังหวะสนทนากับร่างกาย

———–

ฉัน…

ฟังร่างกายครั้งที่สอง 02/04/59

ก่อนเริ่ม..มีความตั้งใจดี อยากฟังร่างกายจริงจังสักครั้ง อยากรู้ว่าร่างกายจะบอกอะไรเรา เมื่อตอนเย็นทำงานส่วนตัวไม่เสร็จตามที่คิดเลยเกิดความชั่งใจเล็กน้อยว่าจะเปิดคอมฯดีมั้ย แต่เห็นว่าดึกมากแล้วและพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า ถ้าทำตอนนี้คงจะไม่ไหวร่างกายบอกว่าเธอต้องคลานขึ้นเตียงแน่ๆ พรุ่งนี้ก็จะอ่อนเพลียสมองไม่ปลอดโปร่งเหมือนทุกครั้งแน่ๆ ก็เลยไม่ทำและไปเปิดเพลงผ่อนคลายทำกิจวัตรตามปกติ

ขณะฟังร่างกาย..เลือกนอนบนเบาะและเปิดไฟ เมื่อกำหนดความรู้สึกไปที่เท้าทั้ง 2 ข้างรู้สึกระบมเล็กน้อย ร้อนๆ เท้าบอกว่าเธออย่าใช้งานชั้นหนักเกินไปนะ ชอบให้ชั้นเดินหรือยืนจนไม่ไหวแล้วค่อยพัก แต่เวลานั่งก็นั่งซะนานเลย

เลื่อนขึ้นมาที่หัวเข่า รู้สึกเบาๆ หัวเข่าบอกว่าฉันสบายดีจ้า กำลังจะเลื่อนขึ้นมาที่เอวก็หลับไปครู่หนึ่ง พอลืมตาขึ้นมาเห็นว่ายังมีสติอยู่ก็เลยฟังร่างกายต่อ กำหนดลมหายใจไปที่เอวหายใจเข้าหายใจออกก็หลับไปอีกครู่นึงฮ่าๆๆ พอรู้สึกตัวขึ้นมาคราวนี้เลยลุกไปปิดไฟนอนดีกว่า^___^

ระหว่างที่กำหนดลมหายใจมีความคิดเรื่องอื่นแว๊บเข้ามาในหัวเกือบตลอดเวลา เป็นเรื่องทั่วไป แค่จากเท้ากำลังจะขึ้นไปเอวก็มีประมาณ 4-5 เรื่องแล้ว

รู้สึกเท้า-แว๊บ-ฟังเท้า-แว๊บ-รู้สึกเข่า-แว๊บ-ฟังเข่า-แว๊บ

หลังฟังร่างกาย..เนื่องจากต้องตื่นเช้าเลยไม่แน่ใจว่าอาการสะดุ้งตื่นกลางดึกมาดูนาฬิกาเกี่ยวกันหรือเปล่า แต่ตอนนั้นก็ยังมีนึกถึงเรื่องที่ฟังร่างกายว่าตกลงเราฟังถึงส่วนไหนนะ เอวใช่มั้ย แล้วก็นอนต่อค่ะ^^

———–

อาจารย์…

ดีครับ ค่อยๆฝึกฝน มีสติจับขึ้นมาสูงขึ้นแล้ว ทั้งหมดมีอยู่ ๙ ตำแหน่งด้วยกัน ความหมายแต่ละตำแหน่งนั้นผมจะทบทวนให้อีกครั้งใน “ห้องเรียน พลังแห่งจิต” ช่วงท้องน้อยถึงท้อง เป็นพลังของชีวิต หลับบริเวณนี้อาจเพราะว่าใช้พลังชีวิตไปค่อนข้างมาก ไม่ได้เติมพลังให้กับตนเอง ฟังคุณเท้าเยอะๆ ครับ เราอาจต้องเรียนรู้สมดุลระหว่างการใช้พลังกับการพักผ่อนไม่ให้ด้านใดสุดโต่งเกินไปในแต่ละขณะ

ก้าวต่อนะครับ

———–

ฉัน…

ฟังร่างกายครั้งที่สาม 03/04/59

ก่อนเริ่ม…ใจเบาๆ โล่ง รู้สึกเฉยๆ สมองคิดเรื่องทั่วไปหลายเรื่องแว๊บไปแว๊บมา ร่างกายมีแรง ทั้งที่วันนี้ตื่นเช้ากว่าปกติ 2 ชั่วโมง เปิดเพลงพร้อมทำกิจวัตรตามปกติ

ขณะฟังร่างกาย.. เปิดไฟ เลือกนอนบนเบาะ ห่มผ้าถึงคอเพราะแอร์หนาว กำหนดความรู้สึกที่เท้า เท้ารู้สึกร้อนรุมๆ รู้สึกว่ามีสีแดงวงกลมอยู่ตรงฝ่าเท้า และมีรัศมีสีแดงล้อมรอบ เท้ายุกยิกตลอดเวลา และบอกว่าฉันร้อน

หัวเข่า รู้สึกหนัก ตึงๆ เข่าบอกฉันเหนื่อยและเพลีย ระหว่างนั้นเท้า 2 ข้างกระตุกครั้งนึง มีความคิดแว๊บเข้ามาเยอะมาก 5-6 เรื่อง

ท้องน้อย ยังไม่ทันรู้สึกอะไรก็หลับนานถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง พอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็ปิดไฟนอน

———–

อาจารย์…

ช่วงนี้สังเกตการขับถ่ายไว้ด้วยนะครับ เลี่ยงน้ำแข็ง จิบน้ำอุ่น ส่วนระหว่างการฟังร่างกายครั้งต่อไป ลองนึกถึงพลังแสงสว่างแห่งการเยียวยาและพลังที่ดี ลงมาดูแลแต่ละส่วนนั้น ให้พลังนั้นปรับสมดุลเติมส่วนที่ขาดและดึงส่วนที่เกินออกมา ครั้งต่อไปนอกจากฟังเขาแล้วก็สื่อสารและส่งพลังให้เขาด้วยครับ

ดีใจกับความโปร่งเบา เรี่ยวแรง และการเห็นความคิดของตัวเราอย่างสบายๆ นะครับ

ต้องงดของกินที่ทำให้ร่างกายเย็นและชื้นเกินไปครับ เราเพลียง่าย หมดแรงง่าย

———–

ฉัน…

ฟังร่างกายครั้งที่สี่ 04/04/59

วันนี้หลานมาช่วยที่ร้านตั้งแต่เช้าค่ะ เราเห็นการแสดงออกที่เราทำกับหลานเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบหลายอย่าง สะท้อนความเป็นแม่ด้านที่เราไม่ชอบ ที่มีอยู่ในตัวเราออกมา เกิดความกระอักกระอ่วนใจ ไม่ค่อยอยากมีปฏิสัมพันธ์กับหลาน กลัวหลานเกลียด หรือรู้สึกแบบที่เรารู้สึก และไม่อยากเห็นตัวเองที่เป็นแบบนี้ด้วย

ร่างกายหายใจติดขัด และเหมือนมีอะไรกดที่ขมับ หงุดหงิดง่าย อ่อนเพลีย ง่วงนอนมากตอนกลางวัน แต่ความคิดและใจก็สงบลงในช่วงบ่ายๆ

ก่อนเริ่ม…อ่านหนังสือได้หนึ่งบท โดยไม่รู้สึกอยากทำงาน ดูละคร 2-3 ตอนโดยที่ไม่รู้สึกผิด^^ ฝึกท่าโยคะเบาๆครู่หนึ่ง ไม่สระผม ปกติชอบสระผมตอนกลางคืนแล้วนอนทั้งที่หัวยังชื้นๆ(เกือบทุกคืนในช่วง 2 เดือนนี้)

ขณะฟังร่างกาย…รู้สึกว่าเท้าร้อนแล้วก็จำอะไรไม่ได้เลยหลับยาวจนเกือบตีห้า จึงลุกมาปิดไฟห้อง

หลังฟังร่างกาย…หลับฝันว่าตัวเองอยู่ม.ปลายไปซื้อหนังสือก่อนเปิดเรียน แต่เพื่อนที่เห็นเป็นเพื่อนใน ปัจจุบัน

———–

อาจารย์..

ความกระอักกระอ่วนใจที่เห็นด้านลบของแม่ในตัวเรามีผลต่อทั้งร่างกายและหัวใจเราเลย การไปซื้อหนังสือก่อนเปิดเทอม และการฝันเห็นเพื่อน ชวนให้เรานึกถึงอะไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ

อนึ่งเลย ผมต้องชื่นชมที่ตั้งใจ และเพียรพยายามดูแลร่างกายอย่างต่อเนื่อง ทำแบบฝึกหัดนี้ซ้ำถึงสี่ครั้งแล้ว นี่น่าชื่นชมครับ ส่วนการสระผมนั้นเพื่อนผมที่เป็นหมอแผนโบราณคงให้หลีกเลี่ยงสระผมตอนกลางคืนแล้วนอนทั้งที่ยังชื้นอยู่แน่นอน ผมเองก็เคยชอบทำ เข้าใจว่าเราคงต้องการความผ่อนคลายและเย็นสดชื้น แต่ความเย็นชื้นนั้นก็ก่ออาการเชื้อราและอาการหมดพลังได้

ครั้งต่อไปลองเริ่มจากข้างบนดูบ้างครับ แล้วเทียบดูความต่าง ไล่จาก กลางกระหม่อม / หน้าผาก / คอ / หน้าอก / ท้อง / ท้องน้อย / ก้น / เข่า / เท้า ครับ

———–

ฉัน…

การไปซื้อหนังสือก่อนเปิดเทอมชวนให้นึกถึงโรงเรียน อิสระของสถานะนักเรียน อิสระทางความคิด ความรับผิดชอบที่รับผิดชอบแค่ตัวเอง นึกถึงหนังสือที่อยากอ่านแต่ผลัดไปก่อนเพราะเห็นเรื่องงานสำคัญกว่า

การฝันเห็นเพื่อนๆ ชวนให้นึกถึงการมีตัวตน ตัวตนของตัวเองยามอยู่ในกลุ่มเพื่อน รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ การปล่อยมุขปะทะคารมกัน การแสดงความคิดเห็น การแสดงออกทางกาย กอดกัน โอบกัน

———–

อาจารย์…

“ความรับผิดชอบตัวเราเอง” นี่สำคัญต่อประเด็นที่ทำให้เรากระอักกระอ่วนนะครับ การกระทำ เราอาจผิดพลาดบ้างแต่การที่เราแบกรับความเป็นเหมือนแม่ไว้กับตัวเรา รับผิดชอบทั้งตัวเรา ลูก และแม่ในตัวเรา ก็ทำให้เราไม่เป็น “อิสระของสถานะนักเรียน” หรือ “อิสระทางความคิด” สิ่งที่เกิดขึ้นอาจเพียงย้ำเตือนเราให้เรียนรู้ และที่สำคัญ เราไม่ได้เผชิญปัญหาอย่างโดดเดี่ยว แต่อยู่ใน “กลุ่มเพื่อน” ที่มี ” รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ การปล่อยมุขปะทะคารมกัน การแสดงความคิดเห็น การแสดงออกทางกาย กอดกัน โอบกัน” เพื่อนที่ว่านี้อาจอยู่ในสถานะของลูกก็ได้ ครูก็ได้ คนต่างๆ รอบตัวเราก็ได้

———–

ฉัน…

อ่านซ้ำอยู่หลายรอบเลยค่ะ ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ค่ะ เหมือนเป็นความรู้สึกต้านนิดๆตรงคำว่า “ย้ำเตือนเราให้เรียนรู้” เกิดคำถาม “เรียนรู้อะไรนะ” คล้ายเอาดินสอสีเทามาวงๆเป็นก้นหอยหลายๆรอบ

———–

อาจารย์…

ตีความจากความฝันและสิ่งที่เชื่อมโยง ผมถามว่า ความฝันที่เกิดขึ้นนั้นทำให้นึกถึงอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กวนใจนั้น ซึ่งเป็นตัวเราแสดงออกบางอย่างกระทำต่อลูกเหมือนที่แม่กระทำต่อเรา สิ่งที่เราเชื่อมโยงจากความฝันก็มีความหมายย้ำเตือนเรา แต่เราจะน้อมรับความหมายนั้นหรือไม่ก็อยู่ที่เราเลือก เป็น “อิสระของสถานะการเป็นนักเรียน”

“ย้ำเตือนให้เราเรียนรู้” เราจะเข้าใจได้ก็ต้องตั้งคำถามต่อตนเอง เราเห็นท่าทีต่อลูกเป็นเช่นนั้น เราเรียนรู้อะไร เราทุกข์เพราะเชื่อมโยงตนเองต่อแม่ เราได้เรียนรู้อะไรจากจุดนี้ เราอ่อนเพลียสะสม เราได้เรียนรู้อะไร เราอารมณ์ร้อน แสดงว่าเราควรเรียนรู้อะไร การเรียนรู้ก็เป็นความรับผิดชอบต่อตัวเราเองครับ สิ่งที่ผมสื่อสารไม่ได้ยากเกินกว่าจะเข้าใจ ช้าลง ประคองสติ ดูแลตัวเราทุกขณะนะครับ

 

~ ติดตามต่อตอนที่สอง ~