แรงบันดาลใจและการค้นพบ เมื่อ “เขียนข้ามขอบ” รุ่นที่ ๒๑ (๔)

 

เขียนข้ามขอบ รอบแรก ๔_170717_0012

 

 

” ได้ก้าวข้ามขอบทีละเล็กทีละน้อย เป็นลำดับขั้นตอน ได้ค้นพบการตนเอง ได้พูดคุยกับตนเอง ได้พบสิ่งมหัศจรรย์จากจิตใต้สำนึกที่ออกมาพูดคุยกับเรา ได้ให้เราพบกับตัวตนที่เราหลงลืมไป ได้นำพาให้เรามีความละเอียดอ่อนทางอารมณ์ ได้อยู่กับตนเองมากขึ้นเป็นดั่งหนอนผีเสื้อที่กำลังคืบคลานหรืออาจกำลังอยู่ในดักแด้ที่ใกล้ถึงวันออกจากเปลือก รอวันกางปีกและโบยบินอย่างเข้มแข็งมั่นคงและมีอิสระ ก้าวข้ามความกลัวในใจตัวเอง เรียนรู้และเติบโตในทุกๆด้าน ในแต่ละหัวข้อที่ได้เขียนมีทั้งอารมณ์สุข ทุกข์ รวมทั้งอารมณ์สนุกสนาน ตื่นเต้น ท้าทาย มีความประทับใจในหัวข้อบันทึกในแต่ละระดับที่ครูนำมาให้ทำ และประทับใจที่ครูตอบอีเมลล์กลับและให้คำแนะนำ
.
” ในการอบรม พบความอ่อนโยน ความกลัว ความกล้าหาญ ในตัวเอง ได้พบข้อดี ข้อเสีย ที่เราต้องการพัฒนาและปรับปรุง ได้พบกับความต้องการในจิตใต้สำนึกผ่านการเขียนไม่หยุดปากกา ได้ค้นพบตัวตนและเป้าหมายหลักในชีวิตของเรา ได้พบขอบ หรือจุดหวั่นไหวของตัวเองซึ่งเป็นปัญหาหลักในการดำเนินชีวิตทุกๆเรื่อง
.
” การเริ่มลงมือเขียนหัวข้อแรก ก็เป็นการก้าวข้ามขอบเล็กๆ ยิ่งเขียนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเข้าถึงหัวใจของเราเองมากขึ้น ค้นพบจุดหวั่นไหว ขอบของตัวเองมากมายหลายเรื่อง ได้พบแรงผลักดัน เป้าหมายของชีวิต หรืออีกด้าน ก็เป็นการปลดปล่อยความรู้สึกที่อัดอั้น ได้ผ่อนคลายความทุกข์ แต่บทเรียนสำคัญที่ได้จากการเรียนเรื่องนี้ คือ การลงมือทำ และหยุดนิ่ง สงบอยู่กับตัวเองดั่งหนอนดักแด้รอวันบิน ”
.
คุณสุพัตรา (เอ๋) อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว
.
.
” ความประทับใจในการอบรมหลักสูตรนี้ คือ ทำให้เรากลับมาลงมือเขียนได้อีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน ไม่ใช่แค่คิดแต่ลงมือทำตามที่คิด เพราะการทำงานก็ต้องอาศัยการเขียนค่อนข้างเยอะ ขอบคุณอาจารย์สำหรับคำแนะนำดีๆ และการจัดอบรมดีๆ แบบนี้ที่จะนำมาปรับใช้ในการเขียนเพื่อเปลี่ยนชีวิตของเราเอง
.
” จากการเข้าร่วม กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นมากขึ้น ปกติเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าแสดงความคิดเห็น เพราะคิดว่าตัวเองสื่อสารกับคนอื่นไม่ค่อยรู้เรื่อง ทั้งๆ ที่เราก็รู้คำตอบ แต่ด้วยความที่ต้องใช้เวลาเรียบเรียงในการพูด ก็เลยชอบเขียนมากกว่าเพราะสามารถแก้ไขได้ แต่จากการได้อบรมคราวนี้เป็นการเขียนโดยไม่วางแผนทำให้สามารถเรียบเรียงความคิดได้ดีขึ้น กล้าวาดรูปสื่อสารมากขึ้น ถึงจะไม่สวยแต่ก็รู้สึกว่าตัวเองมีจินตนาการเป็นภาพได้ดีกว่าเดิม ”
.
คุณปริญญารัตน์ (แป๋ว) อาชีพ รับราชการ
.
.
” ทั้งในระหว่างการอบรม work shop และ หลังการอบรม work shop และต่อเนื่องด้วยการเขียนบันทึกออนไลน์ มีความรู้สึกว่า ตนเองได้ก้าวข้ามขอบที่ตนผูกไว้แล้ว คือ ตั้งแต่เริ่ม ถ้าเพียงแค่อยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้มาอบรม เราก็จะยังอยู่ในมุมเดิมของตนอยู่เท่านั้นเอง ดังนั้นความรู้สึกที่ได้อบรมคือ มีความสนุก มีความสุข มีรอยยิ้น มีมิตรภาพ มีแต่ความรู้สึกที่ดี ประทับใจในความเป็นกันเองของคุณครูโอเล่ พี่มุก และเพื่อนผู้เข้าอบรมทุกๆท่าน เนื้อหาบทความต่างๆก็สอนเข้าใจและสอดแทรกแง่คิดให้ตนเองได้รู้จักและเ้ข้าใจตนเองมากขึ้นในทุกๆขณะความคิด เกิดคำว่า “ไม่น่าเชื่อ” ขึ้นกับความคิดของตนเองอยู่ตลอดเวลา เช่า ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะทำได้ ไม่น่าเชื่อว่านี่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ เป็นต้น คืออบรมแล้วสอนให้คิด สอนให้มองเห็นตนเองมากขึ้นนั่นเอง
.
” บทเรียนที่สำคัญกับชีวิตตนเองมากที่สุดคือ ภูมิใจในความเป็นตนเอง มีหลายกิจกรรม หรือหลายความรู้สึกที่เมื่อทำ work shop และเขียนบันทึกออนไลน์ ทำให้ก้าวข้ามสิ่งที่อยู่ในตนเอง ส่ิงที่ไม่ชอบ สิ่งที่ไม่กล้า เมื่อทำได้ ก็รับรู้ได้ว่า จริงๆแล้ว เราทำได้ เราทำได้ทุกอย่าง เพียงแค่เราต้องข้ามผ่านจิตที่อ่อนแอของตน จิตที่กลัว ที่ไม่กล้าของตน ก้าวออกมาสู่สิ่งที่ไม่เคยลอง ไม่เคยทำ และผลสรุปสุดท้าย เราก็ทำได้ แม้จะดีหรือไม่ดีมากนัก แต่ถ้ามองในมุมของตนเอง นั่นคือสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดแล้ว ในแบบของตนเอง
.
” ถ้าเป็นไปได้ อยากเขียนบันทึกในแบบออนไลน์ต่อไปเรื่อยๆ เพราะเมื่อรู้สึกวุ่นวาย สับสน และได้กลับมาอยู่กับตนเอง และเขียนบันทึก กลับรู้สึกดี ผ่อนคลาย และในบางครั้งก็หาคำตอบให้กับตนเองได้ทันที อยากหาวิธีคิดวิธีจัดการกับตนเองในยามที่ต้องการผ่อนคลาย อีกทั้งยังจะจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกบางอย่างของตนเองให้ดีขึ้น สร้างพลังให้กับตนเองให้มากกว่าเมื่อก่อน”
.
คุณปพิชญ์พร (วาว) อาชีพ เจ้าหน้าที่รัฐ
.
.
บทเรียนแะความประทับใจจากการอบรม “เขียนข้ามขอบ” กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๒๑ ของหลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต
ติดตามการอบรมและบทความ ได้ที่ www.dhammaliterary.org