“บทที่ขีดเขียน” คอลัมน์ บันทึกเล็กเล็ก #๗

 

 

“บทที่ขีดเขียน”

คอลัมน์ บันทึกเล็กเล็ก #๗  โดย น้องเล็ก

 

 

“Down an unknown road to embrace my fate

Though that road may wonder,it will lead me to you

And a thousand years would be worth the wait

It may take a lifetime but somehow I’ll see it through.”*

 

นิยามของคำว่ารักยังคง undefined ต่อไป แต่ฉันเชื่อว่าความรักที่แท้จริงทำให้เราอยากเป็นคนดี อยากพัฒนาตัวเองให้เหมาะสมกับเขา หรืออย่างน้อยทำให้เขาภาคภูมิใจและไว้วางใจเรา ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าความรักนั้นมีจริงและได้รับการตอบแทนเป็นความรักกลับไปด้วย

ความรักของพ่อและแม่นั้น ฉันได้รับมามากแล้วนี้เป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์ที่สุด และก็ยิ่งอัศจรรย์ขึ้นไปอีกที่ฉันรู้สึกขอบคุณและตั้งใจจะตอบแทนโดยการเชื่อฟังพวกท่านและเป็นคนดีที่ตั้งใจจะทำเลวให้น้อยที่สุด และถึงแม้ว่าจะผ่านมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว แต่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกว่าเป็น ‘คนดี’ สักเท่าไรเลย แต่ฉันก็เชื่อใจตัวเองได้ว่าฉันจะพยายามเลี่ยงการทำผิดบาปต่อไป นี่คงเป็นอีกคุณสมบัติของดีชั่วกระมัง? คือทำดีเท่าไรก็ไม่พอ ทำชั่วครั้งเดียวมากเกินไป และจะเป็นสมบัติที่ฉันจะพกติดตัวจนกว่าชีวิตจะหาไม่

สัญญาณตัวแรกที่จับได้ ฉันตอบแทนความรักด้วยการตั้งใจทำดี สอดคล้องกับกฎจักรวาลที่ว่า ‘หากคุณรักสังคมส่วนรวม คุณจะตั้งใจพยายามไม่ทำร้ายคนอื่นและตัวเอง’ ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ

หลายครั้งเชียวละ ที่ฉันรู้สึกว่าฉันเกิดมาเพื่อทำภารกิจบางอย่าง เราเป็นคนตัวเล็กๆ ที่สำคัญ เรามีพลังที่ซ่อนอยู่มากมาย และหากว่ามีนวนิยายสักเรื่องหนึ่งที่ตัวเอกถูกส่งไปทำภารกิจ แต่กลับจำภารกิจของตัวเองไม่ได้ ก็คงเป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะฉันเองก็ประสบปัญหาเดียวกัน…

หลายครั้งอีกเหมือนกันที่ฉันรู้สึกว่า ฉันเองที่เป็นคนขีดเขียนโชคชะตาของตัวเอง เป็นผู้กำกับบทบาทและเส้นทางชีวิตที่ฉันต้องเผชิญทั้งดี-ร้าย สุข-ทุกข์ และพบเจอผู้คนหลายประเภทหลากจำพวก ฉันจะรู้สึกว่าฉันเป็นนักแสดงมือฉมังและเป็นนักเขียนชีวิตจริงๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่แม้ว่าจะพบเจอเรื่องหนักหนาสาหัสเพียงใด ฉันก็ยังเชื่ออยู่ลึกๆ ว่าทุกสิ่งจะผ่านพ้นไปด้วยดี และในนิยายชีวิตทุกเรื่องจะมีจุดหักมุมหรือช่วงรอยต่อของการเริ่มบทใหม่ในทุกๆ บทของชีวิต พออ่านบทที่ 1 ใกล้จะจบ ก็จะมีสิ่งที่ทำให้มีบทที่ 2 ต่อไป และทำให้อยากจะรู้เรื่องราวต่อ… บางครั้งอาจรีบร้อนอยากรู้มากเกินไปจนทำให้อ่านบทที่ 2 แบบข้ามๆ ผ่านๆ และกระโดดไปอ่านบทที่ 3 เร็วเกินไป ทั้งๆ ที่ยังไม่เข้าใจเนื้อหาของบทที่ 2 ดีนัก จึงอาจทำให้ต้องใช้เวลาเพิ่มเพื่อทบทวนเรื่องราวและบทเรียนจากบทที่แล้ว…

ฉันว่าฉันพบแล้วละ สิ่งที่ทำให้ฉันอยากเขียนบทบาทหน้าต่อไปของชีวิตฉัน ที่จะไม่จำเจน่าเบื่ออีกต่อไปแล้ว ฉันสามารถเขียนหน้าใหม่ได้ในทุกๆ วัน ก็เพราะว่ามีเขาเป็นแรงบันดาลใจ แรงหนุนแรงผลักดัน เป็นกำลังใจของฉัน… หากว่าชีวิตไร้ความรู้สึกแล้ว สิ่งต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นก็คงเป็นเพียงปรากฏการณ์หนึ่งเท่านั้น แต่มันไม่ใช่เพราะชีวิตคนเราเต็มไปด้วยความรู้สึกและอารมณ์ ดังนั้นฉันจึงคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือความโชคดีอย่างที่สุด เป็นความประเสริฐงดงาม และทำให้ฉันตั้งใจเป็นคนดีมากขึ้นและต่อๆไป

 

 

*เพลง Go the distance ของ Michael Bolton