รางวัลรองชนะเลิศ ผลงาน วัดที่ฉันหวัง : น้องธนกร

 

 

“นี่เป็นรางวัลแห่งภาษาไทยที่จะเป็นบันไดให้หนูได้เข้าคณะที่หนูใฝ่ฝัน คือ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เอกภาษาไทย โครงการรับตรงแบบพิเศษผู้เป็นเลิศทางภาษาและวรรณคดีไทย อันเป็นความภาคภูมิใจอีกรางวัลหนึ่ง” “เพียงแค่คนไทยมีความรักความศรัทธาและให้ความสำคัญต่อวัดเท่านั้นที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงวัดให้เป็น “วันที่ฉันหวัง”ได้”
.
นายธนกร ฤทธิ์จำนงค์ เยาวชนที่ได้รับรางวัล รองชนะเลิศ การประกวดงานเขียน ธรรมวรรณศิลป์ ครั้งที่ ๗ ในหัวข้อ “วัดที่ฉันหวัง”
.
ผลงานความเรียง : วัดที่ฉันหวัง
.
“…การสั่งสอนธรรมะโดยบริสุทธิ์ และการปฏิบัติธรรม เป็นแบบอย่างโดยประจักษ์ผลนี้ จะเป็นเหตุชักนำ และช่วยให้คนทั่วไป สามารถศึกษาเข้าใจหลักธรรมได้กระจ่างชัด และเกิดศรัทธาความเชื่อใน พุทธศาสนาอย่างถูกต้อง…” จากบทความข้างต้นนี้ เป็นพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชการที่ ๙ด้วยพระองค์ทรงปรารถนาที่จะแสดงให้เห็นว่า การสั่งสอนธรรมะเป็นสิ่งสำคัญและเป็นสิ่งที่ชาวพุทธทุกคนจะต้องน้อมนำมาปฏิบัติโดยให้บริสุทธิ์ ยังส่งผลให้เกิดความเชื่อและความศรัทธาในพระธรรมคำสอนมากขึ้น และหากพูดถึงการเผยแพร่พระธรรมคำสอนแล้ว ก็คงกล่าวถึงไม่ได้ว่ายังมีสถานที่หนึ่งอันเป็นสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนิกชน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แห่งศูนย์รวมทางจิตใจ หรือแม้แต่สถานที่แห่งศาสนสถานที่ใช้ในการประกอบศาสนพิธีอันคงความบริสุทธิ์แห่งคำสอนของพระพุทธองค์ สถานที่ที่กล่าวถึงนี้เป็นที่ที่ทุกคนจะต้องรู้จักสถานที่นั้นก็คือ “วัด”
.
วัด คือคำเรียกสั้นๆง่ายแต่สามารถสื่อความหมายทางด้านจิตใจได้อย่างมากมาย หลายคนอาจจะนึกถึงวัดในมุมมองของตนเองและนึกถึงได้ไปคนละแบบ ไม่ว่าจะเป็นศาสนสถานแห่งความสงบสุขร่มรื่น ศาสนสถานแห่งความสันโดษเหมาะแก่การศึกษาพระธรรมคำสอน แต่บางคนอาจจะมองวัดเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเหมาะแก่การรักษาจิตใจให้อิ่มเอิบไปด้วยความสุข หรืออีกประการหนึ่งคนส่วนมากยังมองเห็นวัดเป็นศาสนสถานแห่งการสั่งสมบุญโดยการทำนุบำรุงเนื้อนาบุญกับพระสงฆ์ผู้ธำรงไว้ซึ่งพระศาสนาและเป็นการสืบทอดพระศาสนาอีกวิธีหนึ่งด้วย ในทางกลับกันบางคนอาจจะมองเห็นวัดเป็นแค่สถานที่ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายอันไม่เป็นมงคล เมื่อเจอสิ่งร้ายๆมาสิ่งแรกที่เป็นที่พึ่งทางใจได้ก็คือวัด เช่น ฝันร้าย สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา หรือประสบอุบัติเหตุ สิ่งไม่คาดฝันต่างๆ ไม่ว่าจะประสบปัญหาชีวิตใดๆ ศาสนิกชนคนไทยทุกคนจะต้องเกี่ยวพันและเกี่ยวโยงกับสถานที่ทางจิตใจนี้ทั้งสิ้น แสดงให้เห็นว่าวัดมีความสำคัญและเป็นสถานที่อันมีค่ายิ่งทางพระพุทธศาสนา และเกี่ยวพันกับชาวพุทธทุกคนไม่ว่าตั้งแต่เราเกิดจนกระทั้งสิ้นลมหายใจเห็นได้จาก การขอให้พระภิกษุสงฆ์ตั้งชื่อลูกให้เพื่อเป็นสิริมงคล หรือแม้แต่ นำกระดูกอันเป็นสิ่งสุดท้ายในกายสังขารของมนุษย์ที่ยังหลงเหลือไว้ ก็ยังมีการบรรจุลงไว้ในโกศหรือเจดีย์ตั้งไว้ในสถานที่ที่เรียกว่าวัด หลายคนอาจจะคิดว่าวัดเป็นแดนดินถิ่นธรรมะอันก่อให้เกิดปัญญาแก่ทุกคน น้อมนำเอาคำสอนจนกลายมาเป็นพระเพณี จารีต และแนวความคิด ก่อให้เกิดวัฒนธรรมที่ผสมผสานกับพระพุทธศาสนาเกิดดังเห็นได้จากพระเพณีต่างๆ เช่น พระเพณีเข้าพรรษา พระเพณีสารทเดือนสิบ ทำบุญตักบาตร และก่อให้เกิดวัฒนธรรมเช่น วัฒนธรรมการไหว้ วัฒนธรรมการอ่อนน้อมถ่อมตน สะท้อนให้เห็นความสามัคคีและมิตรภาพแสดงออกมาเป็นสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสของคนไทย ดังสมญานามเมืองไทยที่ว่า “สยามเมืองยิ้ม” อันมีรากฐานและบ่อเกิดสำคัญจากศาสนาที่ยังขัดเกลาในหัวใจคนไทยตลอดมา คราวใดที่เพื่อนมนุษย์ประสบทุกได้ยากคราวนั้นก็ไม่พ้นคนไทยที่หาวิธีทางช่วยเหลืออยู่เสมอ สะท้อนให้เห็นพื้นฐานทางสังคมที่ดีงาม เป็นสถาบันทางศาสนาที่คอยขัดเกลาให้เป็นคนดี ซึ่งความสำคัญของวัดในสมัยอดีตนี้เป็นจุดศูนย์รวมแห่งศิลป์วิทยาเปรียบเสมือนวัดเป็นโรงเรียนมีพระสงฆ์เป็นคุณครู ดั่งคำกล่าวที่ว่า บวร “บ้าน” “วัด” “โรงเรียน” ที่ให้วัดเป็นสถานที่ที่รวมทั้งบ้านศาสนสถานและสถานศึกษารวมเข้าไว้ด้วยกัน เป็นความสัมพันธ์ของวัดกับคนไทยในอดีต โลกใบนี้ย่อมมีการพัฒนาไม่ว่าจะพัฒนาไปในทางที่ดีหรือไม่ดี ย่อมเกิดจากมนุษย์ในสังคมใหม่ หรือที่เรียกว่ามนุษย์ยุคโลกาภิวัตน์ ทำให้ความคิดของคนไทยย่อมเปลี่ยนไปเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นการไกลห่างจากวัดมากขึ้น ไม่มีความเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษซึ่งทำให้เกิดการไม่เกรงกลัวต่อบาปหรือเรียกว่า หิริโอตตัปปะ เป็นบ่อเกิดแห่งปัญหาอาชญากรรมตามมาส่งผลกระทบให้การใช้ชีวิตของทุกคนเต็มไปด้วยความหวาดระแวงไม่เกิดความสันติสุขในชีวิต เมื่อเกิดปัญหาภายนอกวัดซึ่งเกิดจากการไม่ยึดนำหลักธรรมคำสอนอันประเสริฐ ซึ่งวัดเองก็ยังรับผลกระทบจากยุคโลกาภิวัตน์เห็นได้จากตัววัดบางวัดเองก็ยังสร้างที่มาของคำว่า พุทธพาณิชย์ การค้าขายในทางศาสนาหรือการขายความเชื่อ ปัญหานี้เป็นปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคือการจัดทำเครื่องรางของขลังหรือที่เรียกว่า วัตถุมงคล เช่น ตะกรุด เบี้ยแก้ พระเลี่ยมกรอบทองคำ สาลิกา สีผึ้ง ทั้งหมดนี้มิใช่หนทางแห่งพระพุทธศาสนามิใช่หนทางแห่งการหลุดพ้นมิใช่หนทางแห่งวัดแห่งการยึดมั่นในคุณของไตรสรณคมน์และมิใช่หนทางตามที่บัญญัติไว้ในพระไตรปิฎก แต่เป็นวัฒนธรรมที่ปฏิบัติกันสืบต่อมาอยู่เนืองๆ ในพระพุทธศาสนาไม่มีอะไรที่ประเสริฐล้ำไปเกินพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อันจะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจให้ประพฤติปฏิบัติในทางที่ถูกต้อง อีกประการหนึ่งวัดกลับกลายเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ทุกต้นเดือนและกลางเดือน คือการหาตัวเลขซื้อสลากกินแบ่งแม้แต่หวยใต้ดินเพื่อหวังรวยทางลัด ซึ่งเป็นหนทางที่ไม่ก่อให้เกิดสัมมาอาชีพที่ถูกต้องนักตามหลักธรรมคำสอน จากเดิมวันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นขอบขัณฑสีมาแห่งธรรมะเพื่อการหลุดพ้น แต่ในปัจจุบันกลับกลายเป็นลานแป้งหรือลานใบ้หวย ความสำคัญและความศักดิ์สิทธิ์ของวัดอยู่ไหนหรือมันกลมกลืนเข้ากับสังคมยุคใหม่ไปเสียแล้ว ในโลกใบนี้ความหวังเป็นสิ่งที่สร้างสรรค์และจุดประกายสิ่งต่างๆและสามารถเปลี่ยนแปลงดีขึ้นได้ ผมมีความรู้สึกว่าการที่วัดในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไป แต่ในทางกลับกันทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ย่อมมีข้อดีและข้อเสียเสมอ การสร้างวัตถุมงคลอาจจะมีนัยแห่งการเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจกระทำตนให้เป็นคนดีไม่เบียดเบียนคนอื่นหรือแม้แต่ หางบประมาณในการมาพัฒนาวัด หรือการบูรณปฏิสังขรณ์ ย่อมเกิดประโยชน์และผลดีต่อสังคมและสถานที่อันเป็นจุดศูนย์รวมทางจิตใจ ดังนั้นวัดที่ผมหวังในจินตนาการของผมคือต้องการให้วัดเจริญไปด้วยธรรมเจริญไปด้วยแสงสว่างแห่งปัญญาอยากเห็นความร่วมมือของชุมชนและวัดไปในทางที่ดี สร้างเสริมความสามัคคีในชุมชนโดยมีวัดเป็นสะพานเชื่อม อยากให้วัดมีกิจกรรมอันเป็นรากฐานที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนกับวัด อยากจะให้วัดไม่ผลิตวัตถุมงคลโดยไม่จำเป็นเพราะการทำความดีนั้นจะคอยคุ้มกันเราเองไม่จำเป็นต้องพึ่งพาวัตถุมงคล ควรที่จะยึดถือการทำดีและยึดเอาแก้วสามประการหรือไตรสรณคมน์เป็นที่พึ่ง อยากให้วัดไม่ใช่เป็นสถานที่ของคนสูงวัยอยากให้เด็กๆเข้ามามีส่วนร่วมด้วย อยากให้วัดเป็นสถานที่ที่เป็นแหล่งบุญแหล่งกุศลเขตอภัยทานสิ่งในไม่ดีก็ไม่ควรไปนำเข้าไปในวัด อยากให้วัดเป็นสถานที่แห่งความศรัทธาแห่งพระพุทธศาสนิกชน อยากให้วัดไม่มีการขวนขวายหาผลประโยชน์ทางศาสนา และอยากให้วัดเป็นจุดศูนย์รวมของธรรมะอันประเสริฐของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสถาพรคงอยู่คู่คนไทยตลอดไป
.
จากบทความข้างต้นที่กล่าวมานี้สรุปได้ว่า วัดเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญและมีความเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของพุทธศาสนิกชนคนไทย ไม่ว่าจะผ่านระยะเวลาที่ยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันวัดยังเป็นสถานที่ที่เชิดชูและธำรงไว้แห่งพระพุทธศาสนาอันมีค่ายิ่งต่อจิตใจของพุทธศาสนิกชนคนไทย ไม่มีชนชาติใดในโลกนี้จะมีความสงบและสันติสุขไปมากกว่าชนชาติไทย เพราะคนไทยมีศาสนาอันเป็นรากฐานให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข สิ่งที่ผมหวังจะเป็นไปได้หรือก็ขึ้นอยู่กับพุทธศาสนิกชนคนไทยที่จะธำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะปรับเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้ ผมขอเชิญให้ทุกคนรักและหวงแหนสถานที่สาธารณะอันเป็นบ่อเกิดแห่งการดำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา เช่นการ เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆศาสนา การทำนุบำรุงเนื้อนาบุญอันประเสริฐและการปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนของพุทธศาสนิกชนคือศีลห้า เพียงเท่านี้วัดก็จะส่วนหนึ่งในชีวิตและสร้างสังคมให้เป็นดั่งสรรค์บนดิน สืบทอดพระพุทธศาสนาอยู่ยั่งยืนยงสู่รุ่นลูกรุ่นหลานตลอดไป
.
.
ติดตามบทความ และ การอบรม ได้ที่ : www.dhammalterary.org