ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๙)

 

“รู้สึกประทับใจในกิจกรรมทุกอย่างที่ครูได้จัดประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยได้รับมาก่อนโดยเฉพาะการเขียน ซึ่งมีลักษณะพิเศษที่ดำดิ่งลึกลงไปภายใต้ความรู้สึกลึกๆที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน และไม่มีทางใดที่จะนำขึ้นมาเพื่อเผชิญกับความรู้สึกนั้นๆ กับการเขียนที่ผ่านความรู้สึกอย่างแท้จริงกับตัวเอง โดยไม่ต้องกักขังความรู้สึกใดๆไว้ภายใน ชอบวิธีการเขียนที่ไม่ต้องวางแผน หรือเตรียมตัว เพื่อให้ได้สิ่งที่เกิดขึ้นในจิตขณะนั้น แต่จุดสำคัญคือ การสร้างเวลาที่จะเข้าถึงจุดนิ่งสงบของจิตนั้น ต้องการสิ่งแวดล้อมทั้งภายในตนเอง และภายนอกตนเองที่เหมาะสม เพื่อให้ได้คุณภาพของการเขียนออกมา ซึ่งแต่ละคนมีสิ่งนี้ไม่เท่ากัน ส่วนตัวเองอาจมีน้อยกว่าคนอื่น แต่คิดว่าสิ่งที่ได้รับกับตัวเองนั้นคงไม่น้อยกว่า ดีใจที่มีโอกาสได้รู้จักวิธีการเขียนแบบนี้ ถ้ามีโอกาส ก็อยากจะต่อเนื่อง เพียงเพื่อให้ตัวเองมีสิ่งยึดเหนี่ยว และมีทางออกเมื่อต้องการเขียนถึงสิ่งที่คับข้องใจ หรืออะไรบางอย่าง
.
“ได้รู้จักว่าตนเองเป็นคนที่มีลักษณะเงียบ ตามบุคลิกภาพที่บอกว่าเป็นคน Introvert หมายถึงไม่แสดงออกออกทางด้ายกายภาพให้ผู้อื่นได้เห็น หรือสังเกตเป็นที่ประจักษ์ และทำให้คนอื่นจดจำได้ง่าย แต่มีการแสดงออกภายใน คือการคิดและแสดงความเห็น เท่ากับ หรือมากกว่าผู้ที่มีบุคลิกตรงกันข้าม เพียงแต่ มีการแสดงออกในกลุ่มคนที่คล้ายกัน เพื่อให้ได้รับการยอมรับในแนวคิดที่คล้ายกันมากกว่า และบางครั้งเป็นคนขาดความมั่นใจในตัวเอง เพราะความคิดเห็นที่แตกต่างจากคนอื่น แต่ก็ยังเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง ทำให้สับสน ว่าจริงๆแล้วตัวเองเป็นคนอย่างไรกันแน่ ขาดความมั่นใจ หรือเชื่อมั่นในตัวเอง
.
“บทเรียนในห้องเรียน สร้างความเชื่อมโยงทางความคิด การสื่อสารทั้งในรูปแบบ คำพูด และทางกาย ถึงแม้ว่าจะเป็นการแสดงละคร แต่ได้ข้อคิดที่ว่า การต้องการให้คนเข้าใจเรานั้น มีความลำบากมาก ดังนั้น อย่าเพิ่งโทษคนอื่นว่าทำไมเข้าใจยาก ขอให้โทษตัวเองว่าสื่อสารไม่มีประสิทธิภาพ ในหลวงร.9 เคยบอกว่า ไม่ใช่ความผิดของเขาที่ไม่เข้าใจเรา เรามีหน้าที่ที่ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจจนได้ ประมาณนี้”
.
คุณพจนีย์ (ติ้ง) อาชีพ พยาบาล
.
.
“การอบรมครั้งนี้ เป็นสิ่งแปลกใหม่มากสำหรับตัวเอง เป็นสิ่งที่ช่วยในหลาย ๆ ด้านของตัวเองที่มีปัญหา ไม่ว่าจะด้าน การงาน ครอบครัว ความสัมพันธ์ กรอบของตัวเอง การได้คลี่คลายปม ความรู้สึกตั้งแต่เด็กเป็นสิ่งที่ตัวเองรู้สึก ตกใจมาก เราเคยคิดว่า เราเข้าใจอย่างดีแล้วสำหรับเหตุการณ์ตอนเด็กตอนนั้นของเรา เรารู้แล้วว่าไม่ดี แต่เราไม่เคยรู้ลึกลงไปว่า ทำไมช่วงชีวิตที่ผ่านมาของเราถึงเป็นแบบนั้น ความสัมพันธ์เราถึงได้พังทลายแบบนั้น และทำไมเราถึงมีคนกวนใจ ที่ทำให้รำคาญใจอยู่ได้เสมอ ๆ รู้สึกขอบคุณมากที่ได้อบรมครั้งนี้ ขอบคุณคุณครู ขอบคุณหลักสูตรนี้มาก
.
“ชอบหัวข้อ รับคำวิจารณ์ เป็นบทที่งดงามในการทำความเข้าใจ การอภัยทั้งตัวเองและคนอื่น การอบรมทำให้รู้จักตัวเองขึ้นอย่างมากในหลาย ๆ ด้าน รู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถมากกว่าที่ตัวเองคิด รู้สึกว่าตัวเองได้คลี่คลายปมความรู้สึก หลาย ๆ ปมในชีวิตที่ผ่านมา ได้เข้าใจตัวเอง ได้ให้อภัยตัวเอง และให้อภัยคนอื่นจากความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเข้าใจและเข้มแข็ง
.
“เราสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ หากเรารู้จักนิ่งฟังตัวตนภายในของเรา ปล่อยให้เขาได้ออกมาข้างนอก มาปลดปล่อย มาชี้แนะ มาบอกเล่า หลาย ๆ สิ่งหลายอย่างที่แอบซ่อนอยู่ บางครั้งอาจจะเป็นข้อแนะนำดี ๆที่เราคาดไม่ถึงทีเดียว เราต้องฝึกฟังตัวเอง นิ่งฟังตัวเองในทุก ๆ วัน เราต้องพยายามพาตัวเองออกนอกกรอบเดิม ๆ เพื่อเติมเต็มชีวิตในส่วนต่าง ๆ ของเรา เราจะทำการฝึกฝน ตามวิธีการต่าง ๆที่การอบรมได้แนะนำไว้ พยายามปรับเปลี่ยน หรือใช้วิธีการต่าง ๆ ให้ครบทุกวิธีการ เพื่อเรียนรู้และทบทวนตัวเองไปเรื่อย ๆ เพื่อการพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่มีความสุขสมบูรณ์อย่างแท้จริง”
.
คุณศรีสุดา (หญิง) อาชีพ พนักงานบริษัท
.
.
“ต้องกราบขอบคุณครูที่ทำให้ฉันก้าวผ่านใจที่เก็บซ่อนเรื่องราวในอดีต
ประทับใจครูที่ตรงไปตรงมาในการวิจารณ์มุมมองของฉัน รวมทั้งได้ชี้แนะมุมมองที่ขาดหายไป ในยามที่ดีใจ สุขใจ เสียใจ เหนื่อย ท้อแท้ ฉันมักคิดถึงข้อความที่ได้เขียนในบทเรียนหลายบท ทำให้ความรู้สึกตัวได้เกิดขึ้นและทำให้ฉันไม่หลงตามอารมณ์ความคิดนั้นไป ทั้งยังได้เห็นถึงความเป็นไตรลักษณ์ของอารมณ์ความคิดเหล่านั้น
.
“เมื่อฉันเปิดเผยตัวตน ฉันจะพบเรื่องราวที่เก็บซ่อนไว้ในใจ แม้นจะนานเพียงใดก็ตาม ความรู้สึกในส่วนลึกของใจยังคงอยู่ การเรียนในครั้งนี้ทำให้เห็นอารมณ์ความคิดของตนเองได้อย่างยอมรับ ความเข้าใจทำให้ได้ปล่อยวางสิ่งที่แอบซ่อนไว้ในใจ รวมถึงได้รู้จักการละอารมณ์ ความคิดที่ปรากฏอยู่ในใจได้ด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง
.
“การมองสองด้านของชีวิต ทำให้เห็นถึงความดีงามมากมายในใจดวงนี้ การปรากฏขึ้นของใจที่มีความงดงามถือเป็นพลังด้านบวกที่ทำให้การลดบทบาทของมุมมองด้านลบได้เป็นอย่างดี และเชื่อมั่นว่าจากนี้ไปจะดำรงตนได้ดีท่ามกลางชีวิตที่มีทั้งด้านลบและด้านบวกด้วยการเป็นเพียงผู้รู้ที่คอยดูเท่านั้น ไม่เข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกับความคิด อารมณ์ที่ปรากฏให้เห็น
.
“ความเข้าใจที่เป็นรูปธรรมจากการเขียนทำให้เข้าใจในเรื่องอนัตตา ฉันได้ฝึกปล่อยวางไม่ยึดติดในเรื่องราว ความคิดและอารมณ์ที่ปรากฏขึ้นทุกขณะว่าเป็นฉัน การเขียนทำให้ฉันระลึกได้ถี่ขึ้นในเรื่องของอนิจจังและทุกขัง การวางใจให้เป็นเพียง “รู้” ทำให้เข้าใจในความจริงของธรรมชาติมากขึ้น แม้บางเวลาฉันยังหลงเพลินไป แต่ฉันรู้ว่าฉันจะรู้สึกตัวได้เร็วขึ้น เพราะมีบทความที่ฉันเขียนปรากฏขึ้นมาให้ฉันเห็นในใจเสมอๆ”
.
คุณวัชรี (รี) อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว
.
.
ความประทับใจ และ บทเรียน “เขียนค้นตน” ในหลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๒๘ การอบรมการเขียนบันทึกเชิงจิตวิทยาเพื่อการรู้จักตนเอง และการนำศักยภาพภายในตนออกมาใช้เพื่อพัฒนาชีวิต ติดตามการอบรมและบทความได้ที่ www.dhammaliterary.org