บทเรียน เขียนค้นตน ๒๕๖๐ (๑)

 

16797254_1339996192732411_6043606593596627523_o

 

สรุปการเรียนรู้จากการเขียนค้นตน #เขียนเปลี่ยนชีวิต
.
ก่อนเริ่มต้นอบรมนั้นมีความรู้สึกว่าคอร์สนี้น่าสนใจมากๆ และต้องทำให้เราได้ค้นพบตัวเองว่าเป็นอย่างไร แต่หลังจากการเรียนตลอดระยะเวลาสี่สัปดาห์ มันไม่ใช่อย่างที่เราคิดเลย มันไม่ได้ทำให้เราค้นพบตัวเองอย่างที่หวัง แต่มันกลับได้กระบวนการที่จะให้เรียนรู้ตัวตนของเราในหลายๆ ด้าน
.
การอบรมที่ผ่านมาทำให้เราได้เรียนรู้ว่าตัวเราเองก็มีมุมดีๆ ที่ทำให้เราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ผมรู้ว่าการเรียนแค่นั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเราได้ทันที จากหน้ามือเป็นหลังมือ จบคอร์สแล้วเราต้องเป็นอีกคนหรือเป็นคนใหม่ทันที มันไม่ใช่ ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเราไม่เคยย้อนกลับมามองตัวเราเองเลย และเราก็เพิ่งหัดที่จะกลับมาค้นหาตัวตนของเราผ่านการเขียนบันทึก มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะเห็นตัวตนของเราจริงๆ หรอก เรายังคงต้องอ่านทบทวนสิ่งเราเขียนไป และทำซ้ำกระบวนการดังกล่าวหลายๆ ครั้ง จนกว่าเราจะเห็นอะไรชัดเจน ซึ่งมันก็จะชัดเจนขึ้นทุกครั้งที่เขียนอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจะจบคอร์สแล้วผมคิดว่าจะเขียนต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าสิ่งที่คิดว่ามันเป็นปัญหาของเราจะได้รับการเยียวยาและเจอหนทางในแก้ไขปัญหานั้นๆ
.
กระบวนการต่างๆ ในการเขียนบันทึกนั้นทำให้เราได้กลับมาทบทวนหรือย้อนมองตัวเองอย่างจริงจัง เริ่มต้นจากสิ่งที่เรามีปัญหา แล้วลองให้เราจินตนาการและวาดลงในกระดาษ มันทำให้ภาพในจินตนาการของเราไม่หายไปไหน แล้วเราสามารถเขียนบันทึกต่อจากที่เราจินตนาการไว้ และทำให้เราสังเกตเห็นบางอย่างในภาพได้อีกด้วย ซึ่งช่วยให้เราเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ดีขึ้น นอกจากนั้นการเขียนบันทึกด้วยการโต้ตอบกันระหว่างมือขวา (ข้างที่ถนัด) แทนตัวเรา กับมือซ้าย (ข้างที่ไม่ถนัด) แทนอีกตัวตน มันทำให้เราได้รู้ความคิดจากอีกมุมมองนึง เวลาที่เราจมดิ่งกับเรื่องนั้นๆ มันก็จะคิดวนเวียนกับเรื่องนั้นๆ การที่เราจะออกจากวังวนแห่งความคิดนั้น เราก็คงต้องให้ใครบางคนมาฉุดเราออกมา ซึ่งก็คือ อีกตัวตนของเรา หรือการเขียนจดหมายตอบโต้ระหว่างเรากับสิ่งอื่นๆ นั้นก็เช่น ทำให้เราได้มุมมองจากสิ่งนั้น แทนที่จะมองจากมุมเรามุมเดียว สุดท้ายคือ การเขียนทบทวนหลังบันทึก ผมคิดว่าเราเหมือนโค้ชฟุตบอลที่ยืนอยู่ข้างสนาม ซึ่งจะทำให้เราเห็นเกมทั้งหมด และสามารถวิเคราะห์ว่าเรามีจุดผิดพลาดหรือบกพร่องตรงไหน แล้วเราจะแก้เกมนั้นได้อย่างไร ดังนั้นการเขียนทบทวนจะช่วยให้เราเห็นความรู้สึกของเราทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเขียนบันทึก ทำให้เรามองเห็นจุดผิดพลาด หรือมีข้อสังเกตที่ทำให้เราสามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ นอกจากนี้การที่มีครูโอเล่ก็เปรียบดั่งหัวหน้าโค้ชที่จะคอยให้คำแนะนำหรือข้อสังเกตเพิ่มเติม เวลาที่เห็นว่าเรามีอะไรที่ตกหล่นไป ทำให้เรามีมุมมองครบถ้วนมากยิ่งขึ้น
.
ซึ่งผมมองว่ากระบวนการทั้งหมดนี้ช่วยทำให้เราได้กลับมาย้อนมองตัวเองในหลายๆ ด้าน หลายๆ มิติที่มีอยู่ในตัวเรา ที่เราไม่เคยมองมาก่อน
.
จากวันแรกถึงวันสุดท้ายของการอบรมทำให้ผมเห็นว่าตัวเองมีพัฒนาการและการเติบโตมากขึ้นในด้านการย้อนมองตัวเอง การเขียนบันทึกทำให้เรารู้ว่าปัญหาของเราคืออะไร การเอาแต่คิด มันไม่ทำให้เรารู้ว่าปัญหามีอะไรบ้าง บางเรื่องที่เราไม่ทันสังเกตก็ได้เห็นจากการบันทึก เพราะมันเป็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ แต่จะชัดเจนเมื่อเราเขียนมันออกมา อย่างตัวเองจะรู้ว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องความไม่มั่นใจเท่านั้น แต่พอลองค้นลงไปลึกก็ทำให้เราเห็นปมปัญหา การเชื่อมโยง และต้นเหตุของมันคืออะไร ถึงแม้เรื่องดังกล่าวจะไม่สามารถได้รับการแก้ไขในทันที แต่มันก็ทำให้มันมีที่มาที่ไปอย่างไร และต่อไปเราก็สามารถหาวิธีการที่จะแก้ไขมันได้ในอนาคตข้างหน้า
.
ขอสรุปแบบสั้นๆ ว่าการอบรมครั้งนี้เป็นประโยชน์สำหรับผมมากๆ
.
ผมขอขอบคุณครูโอเล่ที่ให้คำแนะนำผมอย่างดีทุกครั้ง และผมสัญญาว่าจะเขียนบันทึกนี้ซ้ำอีกจนกว่ามันจะชัดเจนครับ”
/
คุณคณัส ตุ้ม อาชีพ พ่อค้า
ผู้เรียนหลักสูตร เขียนค้นตน ประจำเดือน มกราคม ๒๕๖๐ (รอบแรก) รุ่นที่ ๑๖
www.dhammaliterary.org